“จุรินทร์” บอกถ้า ปชป.เป็นแกนนำรัฐบาลจะให้พรรคร่วมเจ้าของที่นั่งเดิมส่งเลือกตั้งซ่อมนคร เผยสถานการณ์การค้าไทยเมียนมาหลังยึดอำนาจยังไม่กระทบ (ชมคลิป)

“จุรินทร์” บอกถ้า ปชป.เป็นแกนนำรัฐบาลจะให้พรรคร่วมเจ้าของที่นั่งเดิมส่งเลือกตั้งซ่อมนคร เผยสถานการณ์การค้าไทยเมียนมาหลังยึดอำนาจยังไม่กระทบ

 

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=tqV3luqCQAo[/embedyt]

 

เมื่อวันที่ 2กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09:15 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีที่กระทรวงพาณิชย์ต่อข้อถามเรื่องการกระทบกระทั่งระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 แทนนายเทพไท เสนพงศ์ว่า ตนไม่ขอให้ความเห็นเรื่องพรรคการเมืองอื่น


เพียงแต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ถ้าประชาธิปัตย์เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์ก็จะไม่ส่งผู้สมัคร แต่จะให้เจ้าของที่นั่งเดิมที่เป็นพรรคร่วมเป็นผู้ส่ง ซึ่งประชาธิปัตย์เคยเป็นแกนตั้งรัฐบาลมาหลายครั้งและได้ปฏิบัติมาเช่นนี้โดยตลอด สำหรับการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครเที่ยวนี้ พรรคได้มีมติส่งผู้สมัครแล้วเพราะเป็นเจ้าของที่นั่งเดิม ซึ่งวันที่ 5 กุมภานี้ก็จะทราบชื่อผู้สมัครที่เป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการยึดอำนาจในเมียนมาว่ามีผลกระทบอะไรบ้างหรือไม่ในส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมามาโดยตลอด ก็เป็นห่วงสถานการณ์ในเมียนมาและอยากเห็นเมียนมากลับเข้าสู่สถานการณ์ประชาธิปไตยปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตามตลอดวันที่ผ่านมาได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์ในเมียนมาได้รายงานสถานการณ์ให้ทราบโดยตลอด ซึ่งล่าสุดในเช้าวันนี้สถานการณ์ทางการค้าระหว่างไทยเมียนมาต้องถือว่ายังไม่ได้รับผลกระทบในภาพรวม

โดยเฉพาะการค้าชายแดน ไม่ว่าจะเป็นที่แม่สาย เชียงราย แม่สอด จังหวัดตากหรือที่ระนอง ก็ยังสามารถค้าขายได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ก็จะต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิดอีกระยะหนึ่งเพราะการค้าระหว่างไทยกับเมียนมาถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะการส่งออกของไทยไปยังเมียนมาและการค้าชายแดน ซึ่งตัวเลขของปี 63 ที่ผ่านมาถือว่าตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ดีและได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดแม้เจอสถานการณ์โควิด และการค้าชายแดนในภาพรวมปี 63 ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีเพราะสามารถทำมูลค่าได้ถึง 760,000 ล้านบาท

Related posts